|
|
พระราชดำรัส
พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล
ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิตฯ
วันพฤหัสบดี ที่ ๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๒
ปีที่แล้วในโอกาสเช่นนี้
ได้ขอบใจท่านทั้งหลาย และผู้ที่มาในงานนี้
ทั้งข้างนอกทั้งข้างในว่าขอขอบใจที่ได้มาอวยพรปีใหม่
ที่จริงก็เกินไป แต่ยังไงก็ได้แก้ตัวว่าเป็นการอวยพรปีใหม่ของผู้พูด
คืออีกปีหนึ่งที่ผ่านไปแล้ว
ตอนนี้จะต้องขอบใจท่านที่ได้มาอวยพรในการที่ได้ผ่านไป ๖ รอบ
แต่ความจริงการที่บอกว่าอวยพรหรือให้ความยินดีที่ผ่านไป ๖ รอบ
ก็ไม่ค่อยถูกนัก ควรจะเป็นมาอวยพรในการขึ้นต้นรอบที่ ๗
ซึ่งก็จะเป็นคน และจะได้ให้ตอบสนองได้ว่าขอให้ท่านทั้งหลาย
มีความสุขความเจริญความสำเร็จในรอบต่อไป
และในการนี้ ก็ต้องขออวยพรปีใหม่ เพราะว่าใกล้ปีใหม่เต็มที
ให้แต่ละท่านได้รับความเจริญความสำเร็จมีพลานามัยแข็งแรงต่อไป
ที่ต้องให้อวยพรอย่างนี้ ก็เพราะว่าปีใหม่ที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่วันนี้
เขาถือว่าเป็นปีที่ประหลาด เป็นปีที่พิเศษ
แต่ว่าส่วนมากปีหน้าเป็นปี ๒๕๔๓ ก็ไม่มีอะไรแปลกประหลาดเลย
มันก็ผ่านไปอีกปี เริ่มต้นอีกปี ไม่มีอะไรเป็นพิเศษใดๆเลย
เพียงแต่เป็น ๒๕๔๒ บวก ๑ ก็เป็น ๒๕๔๓ แต่ว่าทุกคนเครียด
เพราะปีที่ผ่านมานั้น เป็นปีที่ค่อนข้างจะมีความเครียด
อันนี้อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้จะผ่านปี จะขึ้นปีใหม่นั้น
เป็นสิ่งที่เกรงกลัวกันว่าจะเครียด ว่าจะลำบากต่อไป
ซึ่งก็อย่างที่ว่าปีหน้าก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษเป็นปี ๒๕๔๓
แต่ว่าที่เครียดกันเพราะว่าปี ๒๕๔๓ นับเป็นปีพุทธศักราช
ถ้านับเป็นปีคริสตศักราชเป็นปี ๒๐๐๐ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สวย
แต่ตัวเลขที่สวยนั้นกลัวกันมาก กลัวกันมากเพราะเหตุใด
เพราะว่าเกี่ยวข้องกับวิทยาการแผนใหม่
โดยเฉพาะเกี่ยวข้องกับเรื่องของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นของสมัยใหม่
และส่วนมากเดี๋ยวนี้ก็สนับสนุนให้ศึกษาคอมพิวเตอร์
และศึกษาวิทยาการสมัยใหม่
คอมพิวเตอร์นี้ที่กลัวกันมากเพราะว่าคนที่สร้างคอมพิวเตอร์
หรือออกแบบคอมพิวเตอร์ตอนแรกไม่มีวิสัยทัศน์
ก็เป็นเรื่องอย่างนี้ คำว่าวิสัยทัศน์เดี๋ยวนี้ ชอบพูดกัน
แล้วก็พูดกันว่าคนนี้มีวิสัยทัศน์ คนนี้ไม่มีวิสัยทัศน์ อันนี้เป็นคนละเรื่อง
แต่ว่านึกถึงผู้ที่สร้างคอมพิวเตอร์นี้ไม่มีวิสัยทัศน์
เพราะว่าเมื่อเริ่มทำเขาบอกว่ากว่าจะถึงปี ๒๐๐๐ อีกหลายต่อหลายปี
แต่ว่าความจริงหลายต่อหลายปีนั้นเดี๋ยวนี้ก็ถึงแล้ว
ที่เขาทำ เขาสร้างขึ้นมา เขาสร้างเริ่มใช้กันแถวๆ ปีที่คนรู้แถวๆ ปี ๑๙๔๕ หรือ ๑๙๕๐
ซึ่งเป็นปีคริสตศักราช เขาก็บอกปี ๑๙๕๐ ก็ย่อเป็นปี ๕๐ ก็ง่ายดี
เพราะว่าทำให้ประหยัด ไม่ต้องใส่ ๑๙๕๐ แล้วก็ใช้ได้
คนสมัยนั้นคนที่สร้างนั้น ก็เฉลี่ยดู ก็อายุสัก ๓๐-๔๐
ที่เขาเป็นคนที่ศึกษาการสร้างคอมพิวเตอร์และพัฒนาคอมพิวเตอร์
เมื่อถึงปี ๒๐๐๐ เขาก็บอกเขาอายุ ๘๐ แล้ว ๙๐ แล้ว คงไม่ต้องทำแล้ว
คงเป็นคนที่ปลดเกษียนแล้ว ไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องรับผิดชอบ
จึงไม่คิดที่จะทำให้เป็นปี ๒๐๐๐ สิ้นเปลืองไปเปล่าๆ
แต่ว่า |